ชวนรู้จักเมนวูล์ฟหมาป่าขายาวแห่งอเมริกาใต้

ชวนรู้จักเมนวูล์ฟ หมาป่าขายาวแห่งอเมริกาใต้

ชวนรู้จักเมนวูล์ฟ (Maned Wolf)
หมาป่าขายาวแห่งอเมริกาใต้

เมนวูล์ฟ (Maned Wolf)
หรือชื่อภาษาไทย คือ "หมาป่าเคราขาว"
เมนวูล์ฟเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ตัวใหญ่ที่สุดในวงศ์สุนัข
ถึงแม้มันจะได้ชื่อว่าเป็นหมาป่า แต่รูปร่างของมันคล้ายกับน้องหมาสายพันธุ์หายากที่ชื่อว่า “บุชด๊อก”
.
เมนวูล์ฟนั้นตัวโตไม่เบา โดยปกติจะมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 20-25 กก. และสูงประมาณ 88-90 ซม.

โดยที่มันสูงขนาดนั้นก็เห็นได้ชัดมากว่ามาจากขาที่ยาวพราวเสน่ห์ของมัน
นอกจากขาที่ยาวและก็มีอย่างอื่นที่ยาวอีก... นั่นก็คือหู ซึ่งมีความยาวถึง 17-18 ซม.
การที่มันมีขาและหูที่ยาวนั้นสำคัญต่อการปรับตัวและดำรงชีวิตของมันมาก
เพราะการที่ขายาวทำให้มันสามารถสอดส่องสายตามองเหนือพุ่มหญ้าที่รก เพื่อหาเหยื่อและป้องกันตัวเองไม่เห็นเป็นเหยื่อจากนักล่าด้วย ในส่วนหูที่ยาวก็ช่วยให้มันได้ยินเสียงได้ไกลและชัดขึ้นทำให้มันล่าอาหารได้ง่ายขึ้น

เมนวูลฟ์มีขนหนาสีน้ำตาลแดงหรือเกือบส้มปกคลุมบนลำตัวและหน้า
มีขาและแผงคอสีดำ มีปลายหางและบริเวณใต้ลำคอสีขาว จึงได้ชื่อว่า “หมาป่าเคราขาว” นั่นเอง

แผงคอของมันก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิวัฒนาการที่สำคัญเหมือนกัน เพราะมันใช้ในการขู่เวลาที่มันกลัวและเวลาที่มันข่มซึ่งมันจะกางแผงคอออกมาให้สัตว์อื่นรู้สึกว่าตัวมันดูใหญ่ขึ้นและน่าเกรงขาม

เมนวูล์ฟไม่ได้เพียงแต่กินเนื้อเป็นอาหารนะ มันสามารถกินคลีนได้ด้วย
ในส่วนของเนื้อมันมักจะหาสัตว์เล็กเป็นอาหาร เช่น หนู กระต่าย นก แมลง และปลา
ในส่วนของการกินคลีนมันก็สามารถกินพืชหรือผลไม้ตามฤดูกาลต่าง ๆ ได้ โดยของโปรดของมันคือ “โลบิรา”
เป็นผลไม้ขนาดเล็กคล้ายเบอร์รี่

เมนวูล์ฟอาศัยหลัก ๆ อยู่ในประเทศบราซิล แต่ก็สามารถพบได้ในประเทศอื่น ๆ ในโซนอเมริกาใต้ อย่างเปรู โบลิเวีย ปารากวัย และ อาร์เจนตินา

เมนวูล์ฟถูกจัดให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ (Near Threatened)
จำนวนของมันลดลงอย่างรวดเร็วจถึง 20% ใน 15 ปีที่ผ่าน จนเหลือเพียงประมาณ 17,000 ตัว มีหลายสาเหตุที่ทำให้จำนวนของมันลดลง ทั้งถูกล่าโดยมนุษย์ ทั้งล้มตายโรคภัยไข้เจ็บที่ติดมาจากสัตว์ชนิดอื่น ๆ ในพื้นที

แต่สาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบต่อมันก็คือการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อสร้างเป็นฟาร์มหรือหมู่บ้านทำให้มันขาดที่อยู่อาศัย

เล่าประวัติมันมาซะยาวเหยียด เรามาดูในจุดที่น่าสนใจของมันกันดีกว่า
ไคลแมกซ์ที่ว้าวก็คือฉี่ของมันส่งกลิ่นเหมือนกัญชานั่นเอง

คุณอาจจะกำลังสงสัยว่าแล้วใครไปนั่งดมกลิ่นฉี่ของมันกันนะถึงรู้ว่าเหมือน
ก็ต้องบอกว่าการพบกลิ่นฉี่ของมันเป็นเรื่องบังเอิญของตำรวจชาวดัตช์ในปี 2006

เรื่องก็มีนักท่องเที่ยวได้กลิ่นตุ ๆ ของกัญชาในสวนสัตว์แห่งหนึ่งในรอตเตอร์ดัม จึงแจ้งตำรวจว่ามีคนกำลังแอบเคลิ้มในสวนสัตว์ แต่เมื่อตำรวจมาถึงก็ต้องตะลึงว่ากลิ่นที่มานั้นไม่ได้มาจากคน แต่มาจากเมนวูล์ฟที่กำลังจองอาณาเขตนั่นเองจ้า