

สัตว์ประหลาดชนิดที่มีผู้พบเห็น หมี ทวีปแอฟริกา มีรูปร่างใหญ่โตและเป็นสัตว์กินเนื้อดุร้ายคล้ายหมี หมีนันดิอาศัยอยู่ในภูมิภาคนันดิ ทางภาคตะวันตกของเคนยา เป็นสัตว์ตามความเชื่อของชาวนันดิ ชาวพื้นเมืองแห่งภูมิภาคนันดิ
ค้นหา ผู้ที่เคยพบเห็นหมีนันดิบอกว่า มันมีรูปร่างใหญ่โต มีลายข้างลำตัวและยังมีขนแผงคอ ส่วนหลังลาดลง หมีนันดิเป็นสัตว์ดุร้าย มีความว่องไวมาก มีช่วงไหล่ที่แข็งแรง มีอุ้งเท้าหน้าที่แข็งแรงและมีกรงเล็บแหลมคม เมื่อพบมนุษย์จะฆ่าและกินเนื้อมนุษย์ โดยส่วนที่ชอบที่สุด คือ สมองสด ๆ
ค้นหา ผู้ที่เคยพบเห็นหมีนันดิบอกว่า มันมีรูปร่างใหญ่โต มีลายข้างลำตัวและยังมีขนแผงคอ ส่วนหลังลาดลง หมีนันดิเป็นสัตว์ดุร้าย มีความว่องไวมาก มีช่วงไหล่ที่แข็งแรง มีอุ้งเท้าหน้าที่แข็งแรงและมีกรงเล็บแหลมคม เมื่อพบมนุษย์จะฆ่าและกินเนื้อมนุษย์ โดยส่วนที่ชอบที่สุด คือ สมองสด ๆ

ชาวนันดิ เชื่อว่าหมีนันดิอาศัยอยู่ในป่าทึบ หรือในพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีต้นไม้โดยรอบ มันล่าเหยื่อโดยการซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ในเวลากลางคืน
ความเชื่อเรื่องหมีนันดิแพร่กระจายทั่วไปในภูมิภาคแถบตะวันออกของเคนยา จนมีการตั้งเป็นชื่อของชมรมกอล์ฟท้องถิ่นแห่งหนึ่งว่า "ชมรมกอล์ฟหมีนันดิ" ซึ่งมีประวัติก่อตั้งมานานกว่า 100 ปีแล้ว
ความเชื่อเรื่องหมีนันดิแพร่กระจายทั่วไปในภูมิภาคแถบตะวันออกของเคนยา จนมีการตั้งเป็นชื่อของชมรมกอล์ฟท้องถิ่นแห่งหนึ่งว่า "ชมรมกอล์ฟหมีนันดิ" ซึ่งมีประวัติก่อตั้งมานานกว่า 100 ปีแล้ว

ปัจจุบัน หมีเป็นสัตว์ที่ไม่ได้มีถิ่นที่อาศัยในทวีปแอฟริกา มีการสันนิษฐานไปต่าง ๆ บ้างก็เชื่อว่า หมีนันดิแท้จริงแล้วคือสิงโตที่ถูกเข้าใจผิด
บ้างก็เชื่อว่าอาจจะเป็นหมีแอตลาส (Ursus arctos crowtheri) ซึ่งเป็นหมีสีน้ำตาล (U. arctos) ชนิดหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้วในช่วงทศวรรษที่ 1870 และเป็นหมีเพียงชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา แถบเทือกเขาแอตลาสในภูมิภาคชายฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงใต้ของโมร็อกโกไปจรดชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของตูนิเซีย
บ้างก็เชื่อว่าอาจจะเป็นหมีแอตลาส (Ursus arctos crowtheri) ซึ่งเป็นหมีสีน้ำตาล (U. arctos) ชนิดหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้วในช่วงทศวรรษที่ 1870 และเป็นหมีเพียงชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา แถบเทือกเขาแอตลาสในภูมิภาคชายฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงใต้ของโมร็อกโกไปจรดชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของตูนิเซีย

โดยอาจจะเป็นหมีแอตลาสที่อพยพจากทางแอฟริกาเหนือมาอยู่ยังแอฟริกาตะวันออก
หรือคาร์ล ชูเกอร์ นักสัตว์ประหลาดวิทยาชื่อดังชาวอังกฤษ ระบุว่าอาจจะเป็นไฮยีนาหน้าสั้น (Pachycrocuta brevirostris)
ไฮยีนาขนาดใหญ่ที่สูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 500,000 ปีก่อน โดยคำอธิบายนี้น่าพอใจเป็นอย่างมาก