วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2561

ตอนที่2 สัตว์สุดแปลกสายพันธุ์ใหม่ ที่เพิ่งถูกค้นพบไม่นานมานี้

🐞ตอนที่2 สัตว์สุดแปลกสายพันธุ์ใหม่ ที่เพิ่งถูกค้นพบไม่นานมานี้
ในยุคปัจจุบันนี้วงการวิทยาศาสตร์ได้มีความพัฒนา และก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิมมากๆ 
จึงทำให้มีการค้นพบสิ่งใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ซึ่งบางสิ่งนั้นก็มีความแปลกประหลาด และไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริงๆ บนโลกใบนี้
Leaf-Nosed Bat
สัตว์สายพันธุ์ใหม่ของค้างคาว มีขนสีน้ำตาลหนานุ่มปกคลุมทั่วทั้งตัว และมีใบหน้าที่แปลกประหลาดมาก โดยเฉพาะบริเวณปาก และจมูกของมัน ถูกพบในอุทยานแห่งชาติ Chu Mom Ray เมื่อปี 2008
Cyclops Shark
เป็นฉลามสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบเมื่อปี 2011 โดยได้รับการยืนยันในประเทศเม็กซิโกว่า เป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีรูปร่างแปลกที่สุด มันเป็นฉลามที่มีตาเดียว ซึ่งกลายพันธุ์มาจากลักษณะเฉพาะที่เรียกว่า Cyclopia ที่สามารถพบได้ในท้องของสัตว์หลายชนิดรวมทั้งมนุษย์ด้วย
The Flamingo Tongue Snail
สัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับทาก มีสีสันสดใสสวยงาม ถูกค้นพบตอนทำการสำรวจจำนวนประชากรของสัตว์ทางทะเลครั้งแรกในแถบมหาสมุทร British West Indies
Sea-Angel
ถูกค้นพบเมื่อปี 2005 ในการสำรวจประชากรทางทะเลในมหาสมุทรอาร์กติก มีลักษณะคล้ายกับปลาผสมกับแมงกะพรุน ลำตัวโปร่งแสง ครีบทั้งสองข้างคล้ายกับปีกของนางฟ้า และมีความยาวถึง 350 เมตร
Pink Nillipede
เป็นกิ้งกือสายพันธุ์หนึ่ง ถูกค้นพบเมื่อปี 2007 ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ลักษณะเด่นคือมีสีชมพูสด ที่เรียกว่าหาได้ยากมากๆ ซึ่งทาง WWF ได้ประกาศเตือนเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2008 ว่า หากพบเจอกิ้งกือสายพันธุ์นี้ให้อยู่ห่างจากมันเอาไว้ เนื่องจากสีสันที่สดมากๆ ของมันอาจแฝงด้วยพิษร้ายแรงก็ได้
Gunnison Sage-Grouse
นกสายพันธุ์หนึ่งที่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ คาดว่าน่าจะเป็นการแยกสายพันธุ์มาจาก Greater Sage-Grouse ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งขนาด ท่าทาง และระบบการสืบพันธุ์
นับวันโลกของเรายิ่งมีสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาทั้งนั้น และไม่แน่ในอนาคตอาจจะมีสัตว์สายพันธุ์แปลกใหม่ผุดขึ้นมาอีกก็เป็นได้

ตอนที่1สัตว์สุดแปลกสายพันธุ์ใหม่ ที่เพิ่งถูกค้น

👾สัตว์สุดแปลกสายพันธุ์ใหม่ ที่เพิ่งถูกค้นพบไม่นานมานี้ในยุคปัจจุบันนี้วงการวิทยาศาสตร์ได้มีความพัฒนา และก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิมมากๆ จึงทำให้มีการค้นพบสิ่งใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ซึ่งบางสิ่งนั้นก็มีความแปลกประหลาด และไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริงๆ บนโลกใบนี้

เหมือนอย่างเช่น ตอนที่1 ของสัตว์สุดแปลกสายพันธุ์ใหม่ ที่เพิ่งถูกค้นพบว่ามีอยู่จริงบนโลกได้ไม่นานมานี้ ซึ่งเราได้นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน จะเป็นสัตว์ชนิดไหน และมีรูปร่างหน้าตาอย่างไรนั้น ลองไปดูกันเลย
1. Yoda Bat
หนึ่งในสัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่มีหน้าตาคล้ายกับตัวละครโยดาในเรื่อง Star Wars ค้นพบเมื่อปี 2010 ทางตอนเหนือของปาปัวนิวกินี ที่มีสัตว์และพืชมากกว่า 200 ชนิด
2. Lesula
ลิงสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นสัตว์ท้องถิ่นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าไรนัก นักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายถึงลักษณะของลิงชนิดโดยเรียกว่า Cercopithecus Lomamiensis ส่วนคนในท้องถิ่นรู้จักว่าเป็นลิง Lesula ซึ่งมีถิ่นอาศัยอยู่ในป่าลึกแห่งหนึ่งในใจกลางของลุ่มน้ำ DR Congo’s Lomami Forest
3. Mr. Blobby
ปลาสายพันธุ์หนึ่งที่ถูกค้นพบเมื่อปี 2003 ที่นิวซีแลนด์ โดยพวกมันจะอาศัยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก แอตแลนติก และอินเดีย ที่ระดับความลึกระหว่างประมาณ 330 ฟุต ถึง 9,200 ฟุต
4. Penis Snake
ค้นพบโดยกลุ่มวิศวกร ที่สร้างเขื่อนใน Amazon บริเวณแม่น้ำ Madeira ในบราซิล มันมีชื่อว่า Atretochoana eiseltiis หรือที่รู้จักกันว่า caecilian เป็นสัตว์ตระกูลครึ่งบกครึ่งน้ำ ไม่มีแขนขา หลายคนมองว่ามันมีลักษณะคล้ายกับอวัยวะเพศชายจึงถูกเรียกง่ายๆ ว่า Penis Snake
5. Pinocchio Frog
ลักษณะคล้ายกับกบต้นไม้ ถูกพบโดยบังเอิญที่ในห้องครัวของค่าย Foja Mountains ซึ่ง Paul Oliver นักสัตววิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Adelaide ก็ไปเจอกับมันเข้า และคาดว่ามันน่าจะอาศัยอยู่บนยอดไม้
6. Chinchilla tree rat
ถูกค้นพบที่เทือกเขา Peru’s Vilcabamba ในบริเวณที่ใกล้กับซากอารยธรรมโบราณอย่าง Machu Picchu เมื่อปี 1997 หนูชนิดนี้มีลำตัวสีเทาอ่อนตัดกับสีขาวบริเวณใบหน้า มีความแข็งแรง และมีกรามขนาดใหญ่

Archachatina Marginata หอยทากยักษ์แอฟริกา

🐚Archachatina Marginata หอยทากแอฟริกาไซส์บิ๊กเบิ้มเกินหนึ่งฝ่ามือ
เพื่อนๆ เคยเห็นหอยทากขนาดตัวใหญ่สุดเท่าไหน?
เชื่อเลยว่าส่วนใหญ่แล้วหอยทากที่ทุกคนพบเห็นน่าจะมีขนาดตัวไม่เกินหนึ่งฝ่ามือแน่ๆ แต่วันนี้เราจะขอพาเพื่อนๆ มาพบกับ หอยทากไซส์บิ๊กเบิ้มที่มีขนาดใหญ่เกินหนึ่งฝ่ามือกัน
มันคือ Archachatina Marginata หรือ West African snail หอยทากยักษ์แอฟริกา ที่มีสีน้ำตาล ซึ่งออกหากินในเวลากลางคืน แถมยังเลี้ยงง่ายสุดๆ เพราะมันกินพืชทุกอย่างเป็นอาหาร และโตเร็ว โดยขนาดตอนโตเต็มวัยมีความยาว 15- 20 เซนติเมตร อีกทั้งยังได้รับความนิยมมากๆ ในเวลานี้

เมื่อหอยทากยักษ์กำลังเป็นที่นิยม Adrian Kozakiewicz นักเพาะพันธุ์สัตว์และแมลงได้เกิดไอเดียเปิดฟาร์มเพื่อเพาะพันธุ์หอยทากยักษ์นี้โดยเฉพาะ เมื่อหอยทากยักษ์นี้อายุได้ 5 ถึง 8 เดือน มันจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ หลังจากที่ผสมพันธุ์แล้วมันก็จะวางไข่ตามกองใบไม้หรือใต้ผิวดินที่ร่วนซุย 
ซึ่งมันจะวางไข่เพียงปีละครั้ง ครั้งละทั้งหมดประมาณ 1,000 ฟอง และจะวางไข่เป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 200-300 ฟองในช่วงฤดูฟน จากนั้นมันจะจำศีลในฤดูแล้ง โดยการสร้างแผ่นใยสีขาวมาห่อหุ้มร่างกายเอาไว้

นอกจากจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดใหม่แล้ว หอยทากยักษ์ยังถูกนำมาปรุงเป็นอาหารตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทหารของเยอรมัน ซึ่งในปัจจุบันหอยทากยักษ์กำลังเป็นที่ต้องการในประเทศไต้หวัน 

โดยมีการเพาะพันธุ์หอยทากยักษ์เพื่อส่งออกเป็นอาหารแช่แข็งในยุโรปและอเมริกา
ในบ้านเราอาจจะไม่ค่อยมีใครนิยมกินหอยทากกันเท่าไหร่ จึงไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต 
แต่สำหรับใครที่สนใจลองลิ้มรสชาติหอยทากยักษ์นี้ล่ะก็ สามารถหาซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

Sun Spider แมงมุมรูปร่างหน้าตาประหลาด

☀Sun Spider แมงมุมรูปร่างหน้าตาประหลาด ที่ชวนให้
ขนลุกเบาๆ
โลกใบนี้ยังคงมีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายหลายชนิดที่พวกเรายังไม่เคยรู้จักหรือพบเห็นมาก่อน และเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้มีรายงานว่า Thomas Acosta ชายผู้อาศัยอยู่ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พบสิ่งมีชีวิตหน้าตาแปลกประหลาดอยู่ในบริเวณบ้านของเขา ซึ่งมันก็คือ Sun Spider นั่นเอง
Thomas ได้ออกมาเผยว่า ‘เจ้าสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อว่า Sun Spider หรือ Camel Spider
(แมงมุมอูฐ) มันมีลักษณะคล้ายกับแมงมุมผสมแมงป่อง ที่มีรูปลักษณ์น่ากลัวราวกับเป็นอสูรกาย ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ในแอริโซนา เพราะก่อนหน้านี้ผมก็เคย และได้ยินชื่อของมันในประเทศอิรัก’

แม้มันจะดูเหมือนมี 10 ขา แต่ในความจริงแล้วมันมีเพียง 8 ขาเท่านั้น เนื่องจากอีกสองขาทีเหลือคืออวัยวะรับสัมผัสที่เรียกว่า Pedipalps ซึ่งจะใช้ในการกวาดอาหารเข้าปาก รับความรู้สึก และช่วยในการสืบพันธุ์ 

ที่สำคัญเจ้าแมงมุมสายพันธุ์นี้ ยังมีขากรรไกรที่ใหญ่มาก และเนื่องจากมีขนาดกราม
ที่ใหญ่ ดังนั้นแมงมุมอูฐที่โตเต็มวัย จะสามารถกลืนกินจิ้งจก รวมถึงหนูกับนกตัวเล็กเข้าไปทั้งตัวได้
อย่างไรก็ตามถึงมันจะดูน่ากลัวแต่ว่ามนุษย์นั้นไม่ใช่เป้าหมายในการโจมตีของมัน เว้นแต่ว่าหากคุณเผลอเข้าไปแตะเนื้อต้องตัวมันโดยไม่ได้ตั้งใจ มันก็จะเล่นงานคุณทันที เพราะเจ้าสัตว์ชนิดนี้มันมีแรงกัดที่รุนแรงมาก ถึงขนาดสามารถฉีกร่างสัตว์ตัวอื่นๆ ให้เป็นชิ้นๆ ได้เลยทีเดียว
Sun Spider

Creatonotos Gangis แมลงรูปร่างแปลกประหลาด

🐞Creatonotos Gangis แมลงรูปร่างแปลกประหลาดที่ดูน่ากลัวเบาๆ
สิ่งมีชีวิตรูปร่างแปลกประหลาดนั้นมีอยู่มากมายบนโลก เหมือนอย่างแมลงที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักในวันนี้ที่บ้านเรายังไม่ค่อยรู้จักเท่าไรนัก ซึ่งแมลงที่ดูแปลกตัวนี้

มีชื่อว่า Creatonotos Gangis เป็นสายพันธุ์หนึ่งของผีเสื้อกลางคืนที่มีลักษณะโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
ดูจากสีสันบนตัวของมันแล้วถือว่าฉูดฉาดไม่น้อยสำหรับผีเสื้อกลางคืนที่โดยปกติแล้วจะมีสีออกมืดๆ ทึมๆ ซะมากกว่า แต่ความพิเศษของมันยังมีอีกคือ ตรงส่วนที่แยกออกมาจากท้องของมันเรียกว่า Coremata ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะปล่อยฟีโรโมน Hydroxydanaidal ออกมาดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม

อีกทั้งมันยังมีอาหารการกินที่แปลกออกไป โดยพวกมันจะกินสารที่พืชผลิตออกมาเรียกว่า Pyrrolizidine Alkaloids ซึ่งสารดังกล่าวนั้นมีพิษเป็นอันตรายกับแมลงตัวอื่นๆ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อพวกมัน 
จึงทำให้พวกมันไม่ถูกแย่งอาหาร นอกจากนี้สารที่ว่ายังช่วยให้อวัยวะส่วน Coremata ของพวกมันเติบโตได้ดีขึ้นอีกด้วย และยิ่งกินมากก็จะยิ่งทำให้ปล่อยฟีโรโมนออกมาได้มาก ทว่าถ้าหากกินสารนี้เข้าไปไม่มากพอก็จะทำให้อวัยวะส่วนนี้ไม่โตขึ้นมา ส่งผลให้ไม่สามารถเรียกหาคู่ได้
ความแปลกประหลาดในเรื่องต่างๆ บนดวงดาวที่ชื่อว่าโลกนั้นยังมีอยู่อีกมากมายให้มนุยษ์ได้พบเห็นและค้นพบ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรที่จะมาสร้างความประหลาดใจหรือตื่นตาตื่นใจให้กับเราอีกนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไป
Creatonotos Gangis

Blue Moth แมลงสีฟ้าที่ถูกค้นพบอีกครั้ง หลังจากสูญพันธุ์ไปแล้ว 130 ปี

🐞Blue Moth แมลงสีฟ้า
ที่ถูกค้นพบอีกครั้ง หลังจาก
สูญพันธุ์ไปแล้ว 130 ปี
โลกใบนี้เคยมีสัตว์มากมายหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่ ซึ่งปัจจุบันสัตว์ที่ว่านั้นได้สูญพันธุ์ไปแล้วตั้งแต่พวกเราจะเกิดมาบนโลกเสียอีก แต่ว่าบางครั้งมันก็ไม่แน่เสมอไป เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีสาวชาวมาเลเซียคนหนึ่งพบกับสัตว์ที่ชื่อว่า
Blue Moth อีกครั้ง หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์เคยบอกว่ามันสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 130 ปีก่อน
Blue Moth ตัวสุดท้ายถูกค้นพบเมื่อปี 1887 ซึ่งปัจจุบันได้รับการเก็บรักษาไว้ในโหลแก้วที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
โดยมันถูกจัดอยู่ในผีเสื้อวงศ์ Clearwing Moths ที่สามารถพัฒนาให้มีลักษณะคล้ายผึ้งหรือที่รู้จักกันว่า Batesian  ซึ่งนั่นเป็นข้อดีที่ทำให้สัตว์นักล่าไม่กล้ากินพวกมัน เนื่องจากกลัวเหล็กไนที่บริเวณก้นของมัน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2017 ขณะที่ Marta Skowron Volponi นักศึกษาปริญญาเอกและนักกีฏวิทยาจาก Poland’s University of Gdansk ได้เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ Taman Negara National Park ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเธอได้พบกับเจ้า Blue Moth โดยบังเอิญ

Marta เล่าว่า ‘พวกมันเป็นสัตว์ที่หายากมากๆ และมักจะอยู่รวมกันในพื้นที่เดียวกันเป็นเวลาหลายนาที นั่นเป็นเห็นผลว่าทำไมนักกีฏวิทยาส่วนใหญ่จับพวกมันด้วยกับดักฟีโรโมนสังเคราะห์’ (เป็นฟีโรโมนที่มนุษย์สังเคราะห์เลียนแบบฟีโรโมนของแมลงวันทองเพศเมีย เพื่อใช้ล่อแมลงวันทองเพศผู้ให้มาติดกับดัก)
ตอนแรกเธอตั้งใจค้นหา Heterosphecia Pahangensis ซึ่งเป็นหนึ่งในผีเสื้อจำพวก Clearwing Moths เพื่อทำความเข้าใจชีวิตและศึกษาพฤติกรรมของพวกมัน 

โดยเธอกล่าวว่า ‘นี่เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ปริญญาเอกของฉัน โดยเปรียบเทียบการบินของ Clearwing Moths กับผึ้งและตัวต่อ ดังนั้นฉันจึงต้องบันทึกวิดีโอตอนที่พวกมันบิน’
Marta พร้อมช่างภาพของเธอได้ล่องเรือไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีแมลงหลายชนิดบินวนอยู่แถวนั้น และที่นั่นมี Clearwing Moths ตัวผู้ที่กำลังเก็บความเค็มจากก้อนหินเพื่อนำไปให้ตัวเมียในฤดูผสมพันธุ์
แต่แล้วระหว่างที่กำลังสำรวจนั้นเธอก็เห็นผีเสื้อชนิดหนึ่งที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด พวกมันมีสีฟ้าสดใส และเธอมั่นใจว่าไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อน ทว่าตอนเธอหันหลังไปบอกช่างภาพ เจ้า Blue Moth ก็หายไปซะแล้ว
อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่านี่อาจเป็นการค้นพบสิ่งแปลกใหม่ในวงการวิทยาศาสตร์ก็ได้ 

เธอจึงตัดสินใจที่จะค้นหามันต่อไปจนกว่าจะเจอ เธอนั่งรออยู่ตรงนั้นอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง จนในที่สุดเธอก็เห็นแมลงสีฟ้าหรือ Blue Moth เธอจึงเรียกให้ช่างภาพมาถ่ายทันที

เธอได้รู้ในภายหลังว่ามันคือแมลงที่ได้รับการวินิจฉัยว่าสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 130 ปีก่อน 
ซึ่งมันมีลักษณะการบินคล้ายกับผึ้งและตัวต่อ ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกก็คล้ายผึ้งและตัวต่อเช่นกัน 
จากนั้นเธอจึงได้ร่วมมือกับองค์อนุรักษ์สัตว์ป่าโลก Global Wildlife Conservation (GWC) เป็นองค์กรที่พยายามค้นหาสัตว์สายพันธุ์หายากหรือคาดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว เพื่อช่วยให้ Blue Moth อยู่ในป่าอย่างปลอดภัย
หลังจากการค้นพบนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนอุทยานแห่งชาติ Taman Negara National Park ในประเทศมาเลเซียมากขึ้น และหวังว่าพวกเขาจะไม่ไปทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นการทำลายระบบนิเวศน์ภายในอุทยาน เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายที่อยู่อาศัยของ Blue Moth นั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

ตุ๊กกาย สัตว์สายพันธุ์ใหม่ ญาติตุ๊กแก

👾ตุ๊กกาย สัตว์สายพันธุ์ใหม่ ญาติตุ๊กแก
สวนสัตว์นครราชสีมา เปิดตัวตุ๊กกาย 4 ชนิดใหม่ของโลก ซึ่งถูกค้นพบในแถบจังหวัดภาคใต้ของไทย 
สวนสัตว์นครราชสีมา ได้เปิดตัวสัตว์ชนิดใหม่ของโลกที่ถูกค้นพบโดยทีมงานนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการของไทย ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ 
เป็นสัตว์ในกลุ่มCyrtodactylus pulsellus หรือสัตว์กลุ่มตุ๊กกายลายพาด รวม 4 ชนิด ซึ่งถูกค้นพบในแถบจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย

ซึ่งนายวันชัย สวาสุ หัวหน้าฝ่ายบำรุงสัตว์ สวนสัตว์นครราชสีมา เปิดเผยว่า สัตว์กลุ่มตุ๊กกาย 4 ชนิดที่พบในประเทศไทย ได้แก่ ตุ๊กกายประดับดาว ตุ๊กกายท้าวแสนปม ตุ๊กกายหมอบุญส่ง จ.กระบี่ และตุ๊กกายภูเก็ต 

ซึ่งสัตว์ชนิดใหม่ทั้ง 4 ชนิด ได้รับการรับรองและตีพิมพ์จากวารสาร Zootaxa ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วว่าเป็นสัตว์ชนิดใหม่ของโลก

สำหรับตุ๊กกายแตกต่างจากตุ๊กแก คือ ตัวเล็กกว่า และอุ้งเท้าไม่มีตัวดูด แต่จะเป็นกรงเล็บ ปีนและเกาะบนกระจกไม่ได้ และไข่ไม่มีความเหนียวหนืด ลักษณะไข่เหมือนไข่นกทั่วไป และออกไข่ทีละ 2 ฟองเท่านั้น ปีหนึ่งอาจจะออกไข่ประมาณ 5-6 ฟอง.

ข้อมูลเพิ่มเติม
ตุ๊กกาย หรือ ตุ๊กแกป่า (อังกฤษ: Curve-toed geckos) สัตว์เลื้อยคลานจำพวกหนึ่ง มีรูปร่างคล้ายตุ๊กแก แต่มีขนาดเล็กกว่า อยู่ในวงศ์ Gekkonidae เช่นเดียวกับตุ๊กแกและจิ้งจก โดยอยู่ในสกุล Cyrtodactylus

มีลักษณะสำคัญ คือ มีนิ้วเท้าและเล็บที่แหลมยาว ไม่มีปุ่มดูดจึงไม่สามารถดูดติดเกาะผนังได้เหมือนตุ๊กแกและจิ้งจก ใช้ได้เพียงแค่ปีนป่ายเหมือนกิ้งก่าเท่านั้น

อาศัยอยู่ในถ้ำและป่า ของทวีปเอเชียไม่พบในเมือง มีประมาณ 89 ชนิด ปัจจุบันพบแล้วในประเทศไทยประมาณ 30 ชนิด

สถานะปัจจุบันเป็นสัตว์หายากชนิดหนึ่ง เคยเป็นสัตว์ที่ถูกบรรจุชื่อไว้ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 แต่เมื่อมีการปรับปรุงใหม่ในปี พ.ศ. 2546 ถูกถอดชื่อออกไป

โดยคำว่า "ตุ๊กกาย" ผู้ที่บัญญัติชื่อนี้ขึ้นมา คือ นายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล อดีตนักอนุรักษ์ธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของไทย
รายชื่อตุ๊กกายที่พบในประเทศไทย แก้ไข
ตุ๊กกายดงพญาเย็น Cyrtodactylus angularis
ตุ๊กกายประดับดาว Cyrtodactylus astrum
ตุ๊กกายปล้องทอง Cyrtodactylus auribalteatus
ตุ๊กกายโคนนิ้วติด Cyrtodactylus brevipalmatus
ตุ๊กกายถ้ำหางขาว, ตุ๊กกายถ้ำสระบุรี Cyrtodactylus chanhomeae
ตุ๊กกายมลายู Cyrtodactylus consobrinus
ตุ๊กกายถ้ำเหนือ, ตุ๊กกายดำนุ้ย Cyrtodactylus dumnuii
ตุ๊กกายดอยสุเทพ Cyrtodactylus doisuthep
ตุ๊กกายตาแดง Cyrtodactylus erythrops
ตุ๊กกายน้ำหนาว Cyrtodactylus interdigitalis
ตุ๊กแกป่าตะวันออก Cyrtodactylus intermedius
ตุ๊กกายจารุจินต์ Cyrtodactylus jarujini
ตุ๊กกายผาหินงาม, ตุ๊กกายกันยา Cyrtodactylus kunyai[4]
ตุ๊กกายหมอบุญส่ง Cyrtodactylus lekaguli
ตุ๊กกายป่าท้าวแสนปม Cyrtodactylus macrotuberculatus
ตุ๊กแกคอขวั้น Cyrtodactylus oldhami
ตุ๊กกายลายผีเสื้อ Cyrtodactylus papilionoides
ตุ๊กกายลายจุด, จิ้งจกดินลายหินอ่อน Cyrtodactylus peguensis
ตุ๊กกายภูเก็ต Cyrtodactylus phuketensis
ตุ๊กกายป่าใต้ Cyrtodactylus pulchellus
ตุ๊กกายลายสี่ขีด Cyrtodactylus quadrivirgatus
ตุ๊กกายสนุก Cyrtodactylus sanook[4]
ตุ๊กกายถ้ำตะวันออก, ตุ๊กกายถ้ำหินปูน, ตุ๊กกายเขาวง Cyrtodactylus sumonthai
ตุ๊กกายคอขวั้นเกาะสุรินทร์ Cyrtodactylus surin
ตุ๊กกายถ้ำใต้, ตุ๊กกายธีรคุปต์ Cyrtodactylus thirakhupti
ตุ๊กกายลายเสือ, ตุ๊กกายไทรโยค Cyrtodactylus tigroides
ตุ๊กกายพม่า Cyrtodactylus variegatus
รายชื่อตุ๊กกายที่อาจพบได้ในประเทศไทย
ตุ๊กกายบาลา Cyrtodactylus elok
ตุ๊กกายป่าพรุ Cyrtodactylus payacola

วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561

Bhupathy’s Purple Frog กบสายพันธุ์ใหม่

🐸Bhupathy’s Purple Frog กบสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบในอินเดีย
ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับกบที่มีตัวโปร่งใสกันไปแล้ว ซึ่งตอนนี้เราก็จะขอพาเพื่อนๆ มาพบกับกบสายพันธุ์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยมันถูกค้นพบในพื้นที่เทือกเขา Western Ghats ของประเทศอินเดีย และมันมีลักษณะพิเศษคือ ผิวหนังสีม่วงอมเทาระยิบระยับ และมีวงแหวนสีฟ้ารอบๆ ดวงตา พร้อมกับจมูกที่คล้ายกับหมู
นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งชื่อให้สายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบนี้ว่า Bhupathy’s Purple Frog เพื่อเป็นเกียรติให้กับ Dr. Subramaniam Bhupathy นักสัตววิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 
ที่เสียชีวิตในเทือกเขาที่ค้นพบเจ้ากบตัวนี้เมื่อปี 2014

ด้าน Elizabeth Prendini นักสัตววิทยาด้านสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า ‘กบสายสายพันธุ์นี้มีความเก่าแก่และความหลากหลายทางสายพันธุ์ที่ต่ำมาก ดังนั้นการได้ค้นพบสายพันธุ์ใหม่จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งและเป็นเรื่องที่พิเศษมาก’
กบสายพันธุ์นี้ส่วนมากจะหากินอยู่ใต้ดิน โดยการใช้ลิ้นของพวกมันตวัดกินพวกมดปลวกที่อาศัยอยู่ในนั้น และในแต่ละปีพวกมันจะขึ้นมาบนดินช่วงฤดูฝนแค่เพียง 2 สัปดาห์เพื่อสืบพันธุ์เท่านั้น 
จากนั้นกบตัวเมียที่ได้รับการผสมพันธุ์แล้วจะทำการวางไข่ใกล้ๆ กับลำธาร พอผ่านไปประมาณ 1 หรือ 2 วัน ลูกอ๊อดตัวน้อยก็จะลืมตาออกมาดูโลก
พวกมันจะมีการพัฒนาส่วนที่ปากคล้ายกับปลาซักเกอร์ และจะอาศัยอยู่รอบๆ ก้อนหินเพื่อกินพวกสาหร่ายเล็กๆ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 120 วันเพื่อพัฒนาเป็นตัวโตเต็มวัย ก่อนจะกลับไปอาศัยอยู่ใต้ดิน
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเปิดเผยว่ากบสีม่วงสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบครั้งนี้มีการพัฒนาที่แตกต่างจากญาติๆ ของมัน โดย Jodi Rowley นักชีววิทยาสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจากออสเตรเลียกล่าวว่า ‘เจ้ากบสีม่วงที่ค้นพบครั้งนี้มีวิวัฒนาการที่แตกต่างจากญาติของมัน และดูเหมือนว่าพวกมันจะมีวิวัฒนาการมาจากสายพันธุ์ทางแอฟริกามากกว่าทางอินเดีย’
Bhupathy’s Purple Frog
นอกจากมันจะเป็นกบสายพันธุ์ใหม่ที่ทางนักวิทยาศาสตร์ค้นพบแล้ว มันยังมีรูปร่างหน้าตาที่แปลกประหลาดสุดๆ เมื่อเทียบกับกบสายพันธุ์อื่นๆ เพราะดูแล้วมันอาจไม่ค่อยเหมือนกบสักเท่าไหร่ด้วยซ้ำ แถมมันยังมีวิธีการกินและอยู่อาศัยที่แตกต่างจากกบทั่วไปอีกด้วย
ที่มา : nationalgeographic.com 

วันจันทร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2561

Rosy Maple Moth ผีเสื้อตัวน้อยที่มีสีสันหวานแหวว

🌼Rosy Maple Moth....
ผีเสื้อตัวน้อยที่มีสีสัน
หวานแหววสุดๆ
Rosy Maple Moth
บนโลกของเรามีแมลงอยู่มากมายหลายชนิด และแน่นอนว่าหนึ่งในแมลงที่มีสีสันสวยงามก็คือผีเสื้อ

ซึ่งผีเสื้อนั้นก็มีแยกย่อยออกมาอีกหลายสายพันธุ์ แถมยังมีแบ่งเป็นผีเสื้อกลางวันกับผีเสื้อกลางคืนอีกต่างหาก แต่ว่าในครั้งนี้เราจะขอพาเพื่อนๆ มารู้จักกับผีเสื้อที่ชื่อว่า Rosy Maple Moth กัน
เจ้า Rosy Maple Moth เป็นผีเสื้อกลางคืนที่มีสีหวานแหววมุ้งมิ้งสุดๆ ซึ่งถือเป็นผีเสื้อกลางคืนที่สวยที่สุดก็ว่าได้ เพราะเดิมทีแล้วผีเสื้อกลางคืนจะมีสีโทนมืด และส่วนใหญ่จะออกไปทางสีน้ำตาลหรือสีคำ

โดยลักษณะทางกายภาพของผีเสื้อชนิดนี้ ตัวเมียจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวผู้มากๆ และเมื่อมันกางปีกจะมีขนาดความกว้าง 1.5 – 2 นิ้ว ในขณะที่ตัวผู้จะมีขนาดแค่ 1.25 – 1.75 นิ้วเท่านั้น และสามารถหาพบได้ทั่วไปทางตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา
สำหรับเพื่อนๆ บางคนที่ไม่ชอบหรือเกลียดแมลงล่ะก็ ถ้าเห็นเจ้าผีเสื้อกลางคืน Rosy Maple Moth สีชมพูมุ้งมิ้งล่ะก็ อาจจะลดความไม่ชอบหรือความเกลียดลงได้บ้างไม่มากก็น้อย
เพราะสีของมันนั้นเหมือนกับขนมสายไหมสุดๆ เลย ว่ามั้ย?

👉ส่วนใครที่ชอบสัตว์แปลกๆ ลองอ่าน Glass Frog กบสายพันธุ์ใหม่ที่ตัวโปร่งใส จากประเทศเอกวาดอร์ และ New Guinea Flatworm หนอนเพชรฆาตที่อันตรายมากกว่าที่คิด
Rosy Maple Moth